วันพุธที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2555

สุพรรณบุรี....แห่งความหลัง (ตอนที่ 3: เยี่ยมมังกรป่วย)

สุพรรณบุรี....แห่งความหลัง (ตอนที่ 3: เยี่ยมมังกรป่วย)

เข้าสู่ตอนสุดท้ายสำหรับ "สุพรรณบุรี แห่งความหลัง" แล้วครับ หลังจากพักแรมได้หนึ่งคืนก็ตื่นมาดูทิวทัศน์ของเมืองสุพรรณบุรี หลังจากที่ผมทานข้าวเช้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว เดี๋ยวผมก็จะเดินทางไปมังกรเพื่อดูอาการบาดเจ็บจากเหตุพลุระเบิดในเดือนมกราคมที่ผ่านมาครับ


ก่อนที่จะไปมังกร ผมเดินทางไปแวะไว้อนุสาวรีย์พระนเรศวรมหาราชก่อนครับ ใครที่ยังไม่รู้จักที่แห่งนี้คงสงสัยใช่ไหมครับว่าทำไมที่นี่ถึงมีแต่ไก่ชนเต็มไปหมดน่ะครับ  ก็เพราะว่า ครั้งยังที่องสมเด็จพระนเรศวรฯท่านยังทรงพระเยาว์นั้นท่านชอบเล่นไก่ชนครับ ดังนั้นชาวสุพรรณบุรีมักจะเอาไก่ชนทั้งตัวเล็กตัวใหญ่มาถวายให้ท่านดังที่เห็นครับ และผมก็เคยเอามาถวายให้ท่านตอนมาครั้งที่สองครับ




และผมก็เดินไปชมวัดไชนาวาส และก็ไปดูตลาดเช้าที่ถนนหมื่นประจญ ซึ่งมีของกินขายสดๆใหม่ๆที่นั่นครับ และตลาดนี้ก็ใกล้วัด ทำให้ผมได้พบกับพระที่มาบิณฑบาตภายในตลาดเช้าด้วยครับ


โอ้โห!! ปลากราย SIZE ใหญ่มาก!!!


ครับ และผมก็เข้าไปดูพระเครื่องที่ขายเช่าในวัด ผมก็ได้ขออนุญาติถ่ายภาพเพื่อเอามาเขียนลงบล็อกนี้ครับ และถามว่า ตลาดพระเครื่องใหญ่นั้นขายที่ไหน ซึ่งคุณลุงก็ตอบว่า "วัดสุวรรณภูมิ" ครับ




แล้วคุณลุงก็บอกว่า แหล่งขายเช่าพระเครื่องที่วัดดังกล่าวนั้นจะเปิดตลาดนัดทุกวันอาทิตย์ครับ และผมก็ขอขอบคุณที่เอื้อเฟื้อให้เก็บภาพมาให้ผมสามารถเล่าอธิบายได้ครับ สำหรับเรื่องนี้ ผมคิดที่จะตามหาสิ่งที่เป็นคำควัญท่อนหนี่งว่า "เลื่องลือพระเครื่อง" ทำให้ผมเข้าใจว่า สุพรรณบุรีเป็นจังหวัดที่มีแหล่งจำหน่ายพระเครื่องแหล่งใหญ่แห่งนี้ครับ ถ้าหากชาวสุพรรณบุรีอ่านอยู่ ช่วยอธิบายเกี่ยวกับการขายพระเครื่องในจังหวัดให้ด้วยนะครับ


จากนี้ไป ผมนั่งรถสองแถวไปยังมังกรครับ






ถ้าใครยังจำความได้ ตอนนั้น งานตรุษจีนในเดือนมกราคมที่่ผ่านมา สถานที่แห่งนี้ได้เกิดอุบัติเหตุพลุระเบิดด้านหลังของมังกร ซึ่งส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต และความเสียหายให้กับที่อยู่อาศัยด้านหลังมังกรครับ เมื่อผมมาถึง ผมก็ยังเห็นป้ายงานตรุษจีนอยู่ครับ


ตอนนั้นผมอยู่ที่เชียงราย กำลังยิ้มแย้มแจ่มใสเรื่องการฉลองเมืองเชียงรายครบรอบ 750 ปี และทราบข่าวทีหลังตอนแม่เปิดข่าวภาคดึกและมีรายงานด่วนเรื่องนี้มา ทำให้ผมตกใจและอึ้งทันที และสลดไปพักหนึ่ง พอวันที่ 25 คลิป ข่าว ภาพ ขึ้นบนทีวีและอินเตอร์เน็ต ขนาดผมยังอยู่เชียงรายยังสลดใจและใจหายครับ


หลังจากความรู้สึกแรกผ่านไป ผมก็รู้สึกว่า "มันไม่น่าจะเกิดขึ้นเลย" เพราะผมกำลังจะเตรียมใจเข้าร่วมฉลองครบรอบ 750 ปีเมืองเชียงราย แต่ดันมาเจอเรื่องแย่ ๆ ใกล้ ๆ กันแบบนี้ ผมก็รู้สึกเสียใจเหมือนกันที่สุพรรณบุรีเจออุบัติเหตุแบบนี้




ทำให้การเที่ยวครั้งนี้ ผมจึงไปสำรวจความเสียหายที่เกิดขึ้น และขอเรียกเที่ยวนี้ว่า "เยี่ยมมังกรป่วย" ครับ ดูไกล ๆ แล้ว ดูเหมือนว่าทุกอย่างเคลียร์หมดเรียบร้อยแล้ว พอมองที่ไปตัวมังกร ก็เห็นรอยแตกตรงช่องท้องได้ชัดดังรูปด้านบนครับ




เมื่อไปยังบริเวณทางเข้าพิพิธภันฑ์ ก็จะเห็นเมฆมังกรมีรอยแตก และเดินไปอีกก็จะเห็นนั่งร้านตั้งไว้ เพื่อซ่อมแซมเมฆมังกรที่แตกด้วยครับ




ต่อมา ผมขึ้นไปที่ศาลา 7 ชั้น เพื่อสังเกตรอบ ๆ ข้าง ก็รู้สึกว่าทุกอย่างเก็บกวาดเรียบร้อยแล้ว ก็มีเพียงหลังคาวัดพระธาตุที่อยู่ด้านหลังมังกรนั้นแตกกระจาย แสดงความเสียหายที่ยังหลงเหลือครับ


ผมได้ไปสอบถามผู้คนที่อยู่แถว ๆ นี้ครับ ผมจึงถามกลับไปยังเหตุการณ์พลุระเบิดครับ พวกเขาได้ตอบว่า ตอนเกิดเหตุการณ์นั้น ไม่ทันได้นึกว่าเป็นอุบัติเหตุ คิดว่าเป็นจุดพลุใหญ่เฉยๆ แต่ก็รู้สึกว่าระเบิดตอนน้ั้นเสียงดังมาก กว่าจะมารู้อีกทีก็มีเสียงรถพยาบาลเข้ามาครับ และหลังจากที่เกิดขึ้นทำให้งานตรุษจีนนี้หยุดไป 1 วัน และจัดจนหมดวันงานครับ ถึงแม้ตอนนี้ตัวมังกรจะบาดเจ็บ แต่พิพิธภันฑ์ยังเปิดให้เข้าชมตามปกติได้ครับ


ครับ ผมอาจเขียนช้าไปหน่อย แต่ก็อยากจะเล่าความรู้สึกย้อนหลังผ่านทางนี้ ผมก็กราบขออภัยด้วยครับ ทั้งหมดนี้ผมก็ขอแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอีกครั้งครับ ตอนนี้ผมถืว่ามังกรยังป่วยอยู่ครับ ใครได้มาเที่ยวที่นี้แล้วสามารถบริจาคค่าซ่อมแซมได้ครับ ภายในศาลหลักเมืองนั้นมีการรับบริจาคทำบุญค่าเกล็ด เล็บ เขี้ยวมังกร และอื่น ๆ ครับ


ก่อนที่ผมออกจากที่นี่ ผมได้บอกไปยังมังกรว่า ขอให้หายดีนะ และครั้งหน้าจะมาเยี่ยมใหม่ ขอให้น้องมังกรหายไวไวนะ อีกไม่นานก็หายดีครับ แต่ถึงยังไงผมก็ขอเป็นกำลังใจครับ


แต่สำหรับสุพรรณบุรีแห่งความหลังของผมตอนนี้ ผมคาดว่ามีสามตอน แต่ยังมีอีกหนึ่งตอน ไว้ติดตามกันอีกทีคราวหน้านะครับ