วันพฤหัสบดีที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2556

สุพรรณข้ามปีตอนที่ 2: ศูนย์พันธุ์พืชเพาะเลี้ยง


สวัสดีครับ เดือนนี้สุพรรณบุรีคงจะครึกครื้นมากสำหรับงานอนุสรณ์ดอนเจดีย์ รำลึกวีรกรรมของท่านสมเด็จพระนเรศวรมหาราชในหารทำศึกยุทหัตถีในการกู้กรุงศรีครั้งแรกนะครับ สำหรับที่เชียงรายก็จะมีงานพ่อขุนเม็งรายมหาราช ที่รำลึกการสร้างเมืองเชียงรายของท่านพญามังรายมหาราช ในวันที่ 26 มกราคม ถึงวันที่ 4 กุมภาพันธ์ครับ ปีนี้เมืองเชียงรายเข้าสู่ปีที่ 752 ครับ (อายุ 751 ปี)

ขออภัย ถ่ายป้ายจริงไม่ทันครับ เลยได้แต่รูปแบบนี้ T^T

สำหรับวันนี้ที่ผมเขียน จะมาเล่าเรื่องการเที่ยวสุพรรณบุรีข้ามปีในชื่อตอนว่า "ศูนย์พันธุ์พืชเพาะเลี้ยง" ที่อำเภออู่ทอง นั่นเองครับ สถานที่แห่งนี้ก็เป็นสถานที่จัดดอกไม้ให้นักท่องเที่ยวมาชม เหมือนเทศกาลเชียงรายดอกไม้งาม(ไม้ดอกอาเซียนเชียงราย) และนิทรรศการนครเชียงรายนครแห่งดอกไม้งาม นั่นเองครับ ซึ่งคราวก่อนผมได้เขียนบล็อกตอนต้นเดือนในหัวข้อที่บอกว่าเชียงรายจะเต็มไปด้วยดอกไม้ ซึ่งงานดอกไม้ที่เชียงรายก็จัดออกมาได้อย่างสวยงามครับ 



ทีนี่เราก็มาดูของสุพรรณบุรีบ้าง ที่ "ศูนย์พันธุ์พืชเพาะเลี้ยง" ที่อำเภออู่ทองนี่แหละครับว่า ที่นี่มีอะไรให้มาชมกันบ้าง ที่นี่นะครับ เป็นสถานที่จัดดอกไม้แบบ ALL IN ONE ซึ่งดอกไม้ในที่แห่งนี้ ทั้งโชว์ ทั้งขาย ทั้งจัดงาน ทั้งเพาะพันธุ์ และดูแลในที่เดียวกันครับ เมื่อผมมาถึงที่ ก็มีทางให้ไปชมดอกไม้หลายที่ ซึ่งที่ๆ แรกที่ผมได้เข้าไปสำรวจคือ เรือนพรรณไม้งาม ที่มีดอกไม้หลายชนิดได้นำมาตั้งโชว์ และสามารถซื้อได้ครับ 


ผมสังเกตดูว่า ดอกไม้ที่นี่จะแบ่งโซนชัดเจนว่าที่โซนนั้นดอกอะไร และทุกโซนจะมีป้ายราคาดอกไม้ติดไว้อยู่ ซึ่งแสดงว่าที่นำมาโชว์นั้น  หากถูกใจดอกไหน ก็ซื้อได้เลย อย่างเช่นดอกแววมยุราในรูปครับ 


และโซนต่อมาก็คือดอกหน้าวัว ซึ่งตัวดอกได้บานจนสังเกตจากที่ไกลๆ ได้ และก็จะมีคนมาดู และก็ซื้อเอากลับไปบ้านครับ จากนั้นก็มีดอกไม้อื่น ๆ ที่น่าสนใจไม่ว่าจะเป็นเทียนฝรั่ง หรือไม่ก็กล้วยไม้ เป็นต้นครับ

นี่คือสตรอเบอรี่นะครับ แต่มันไม่ได้ออกผลเลยไม่รู้นะครับ (เหงื่อตก)
เมื่อชมเรือนแรกเสร็จแล้ว ก็จะมีเรื่อนอื่น ๆ อยู่ด้านหลังครับ ซึ่งเรือนถัดมา ก็จะมีต้น
สตอเบอรี่หลายต้นให้ดูกัน แอบดูว่าต้นไหนมีผลแล้ว ปรากฏว่า ไม่มีทั้งต้นเลย (เหงื่อตก) แต่อย่างไรก็ตาม ก็สามารถซื้อไปได้ ซื้อไปเลี้ยงให้ออกผลกันเองนะครับ (หัวเราะ) และก็จะมี "สัปปะรดสี" ซึ่งชื่อมันบอกว่า สัปปะรด แต่ต้นนี้ กินไม่ได้นะครับ เพราะไม่มีผลครับ



ถ้าอยากจะกินได้ ที่นี่มีการเพาะ "เห็ดโอ่ง" สังเกตุได้จากการเอาโอ่งมาวางโชว์ให้ดูกันครับ โอ้! นี่คือศูนย์พืชพันธุ์เพาะเลี้ยงจริง ๆ ครับ มีวิธีเพาะ และมีวิธีการนำไปทำเป็นอาหารให้รับประทานอีกด้วยครับ นอกจากนี้ ก็ยังมีต้นหวาย กล้วยไม้ต่าง ๆ และต้นกระบองเพชร เพาะขายสำหรับเรื่องนี้ด้วยครับ


ที่ผมมาศูนย์พืชพันธุ์เพาะเลี้ยงนี้ เพราะว่าผมจะตามมาดู "ทิวลิป" ที่นี่ครับ เพราะว่าที่นี่จัดงาน "มหัศจรรย์ทิวลิปบานสุพรรณบุรี" ซึ่งตัวคอนเซปงานก็เหมือนกับงานเชียงรายดอกไม้งามทั้งสองแห่งครับ เมื่อมาถึงในงาน ก็จะได้รับการต้อนรับจากบ้านกังหัน ซึ่งนักท่องเที่ยวและชาวสุพรรณฯได้มาถ่ายรูปคู่กับบ้านกังหันด้วยครับ
ตอนไปถ่ายแดดแรงมากเลยถ่ายไม่ครบคำ (OTL)
และโซนที่จัดเป็นโซน "พฤกษาสวรรค์" ซึ่งจะเห็นพุ่มไม้แปรอักษรอยู่ ถ้าพุ่มไม้โตเต็มที่จนเต็มตัวอักษร ก็จะได้เห็นเต็มตัวอักษรครับ ซึ่งบริเวณต้อนรับและแปรอักษรนี้ ถ้าแดดไม้แรงมาก ก็จะมีคนมาพักผ่อน นั่งเล่นตามบริเวณนี้ครับ


ว่าแล้วเราก็ไปเข้าที่ซุ้มจัดงานกันครับ ที่แห่งนี้ก็จะมีการจัดพันธุ์ไม้ดอกเมืองหนาว และดอกไม้ต่าง ๆ ครับ แน่นอนครับว่าจะต้องมีทิวลิปให้ชมอย่างแน่นอนครับ ก่อนหน้านี้ผมก็ไปชมดอกไม้อื่น ๆ มาว่าแต่ละดอกนั้นสวยงามอย่างไร ที่สำคัญ มีป้ายกำกับชื่อดอกไม้อย่างชัดเจนครับ


แต่ทว่าน่าเสียดาย ที่วันนั้นผมไปดูในตอนนั้น ไม่มีดอกทิวลิปให้เห็นครับ มีแต่ตัวต้น ไม่แน่ใจเหมือนกันว่ามาช้าเกินไปหรือเปล่า แต่อย่างไรก็ตาม ก็มีป้ายโชว์เกี่ยวกับการเติบโตของทิวลิปว่าใช้เวลากี่วันถึงจะบานออกมาเป็นดอกได้ อย่างน้อย ก็ได้ความรู้ทั้งผู้จัดและนักท่องเที่ยว จะได้กะเวลาถูกต้องว่าจะให้บานได้เมื่อไหร่นั่นเองละครับ ส่วนดอกไม้อื่น ๆ ก็ต้องหยิบมุขเดิมมาใช้นั่นก็คือถ่ายดอกไม้ระยะใกล้เพื่อชมความสวยงามของดอกไม้ครับ

มุขเดิมเวลาไปเที่ยวชมดอกไม้ (หัวเราะ)

สำหรับการเที่ยวที่นี่ก็จบลงเพียงเท่านี้ครับ ก่อนออกไป ผมได้มองไปยังสวนกุหลาบแวร์ซายด์ (รูปด้านล่าง) ที่นี่จะพยายามปลูกกุหลาบให้บานสำหรับวันแห่งความรัก 14 กุมภาพันธ์ครับ และก็มีของขายของฝากมาขายด้วยครับ 



ก่อนออกจากที่นี้ ลุงวินมอไซด์อู่ทองเขาใจดี ให้ผมพาไปดูสวนดอกทานตะวันด้วยครับ ผมเลยถือโอกาสนี้ถ่ายสวนทานตะวันที่สวยงามในแบบของสุพรรณบุรีให้ชมเป็นการปิดท้ายเที่ยวนี้ครับ


สำหรับงานดอกไม้ที่แห่งนี้แล้ว ถ้าถามว่าผมรู้สึกอย่างไร ผมจะเก็บความรู้สึกนี้ไว้ก่อน แล้วค่อยไปบอกอีกทีในงานกล้วยไม้ที่บึงฉวากสำหรับวันพรุ่งนี้ครับ สำหรับการเที่ยวสุพรรณข้ามปีของผมยังไม่จบเพียงเท่านี้ ติดตามตอนต่อไปซึ่งยังคงอยู่กันที่อู่ทองครับ สวัสดีครับ