แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ พ่อขุนเม็งราย แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ พ่อขุนเม็งราย แสดงบทความทั้งหมด

วันศุกร์ที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2556

ฤดูการท่องเที่ยวนี้ เชียงรายจะเต็มไปด้วยดอกไม้!!!



สวัสดีปีใหม่ 2556 ครับ ขอให้มีแต่ความสุขความเจริญ ตลอดปีมะเส็งไม่มีเซ็งนะครับ และการไปเที่ยวสุพรรณบุรีข้ามปีของผมนี้ก็ราบรื่นและเจอเรื่องตื่นเต้นมาครับ ก่อนที่จะเล่าเรื่องการไปเที่ยวสุพรรณบุรีนั้น เรามาพูดถึงฤดูการท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงรายกันก่อนครับ


ผมจะนิยามฤดูการท่องเที่ยวของเชียงรายตามหัวข้อเลยครับว่า "ฤดูการท่องเที่ยวนี้ เชียงรายจะเต็มไปด้วยดอกไม้" เนื่องจากว่า ทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงรายนั้นได้ติดป้ายประกาศเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวว่า "นครเชียงราย นครแห่งดอกไม้งาม" ซึ่งสื่อให้เห็นว่า เชียงรายเป็นจังหวัดทางภาคเหนือ ซึ่งทางภาคเหนือจะมีอากาศหนาวเย็นในช่วงฤดูหนาว และทำช่วยให้ดอกไม้เมืองหนาวต่างๆ บานสะพรั่งและสวยงาม แล้วยังอำนวยให้สามารถปลูกดอกไม้หายากต่างๆ ได้ครับ และตรงนี้เป็นแนวคิดที่ทำให้เกิดเทศกาลเชียงรายดอกไม้งามซึ่งจัดมาถึง 9 ครั้งแล้วครับ

ก่อนสิ้นปีผมได้ไปเยี่ยมหาอาจารย์เฉลิมชัยที่วัดร่องขุ่น ซึ่งทางวัดร่องขุ่นเองก็มีการจัดประดับดอกไม้สวยงามเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวครับ และนอกจากนี้ ยังมีที่อื่นร่วมกันประดับดอกไม้ให้สวยงามในแต่ละพื้นที่ ผมคาดว่าคงมีหลายที่ ๆ น่าจะจัดดอกไม้ทั่วจังหวัด ทำให้เชียงรายนั้นเต็มไปด้วยดอกไม้สำหรับช่วงนี้ครับ


หลังจากที่ผมกลับจากสุพรรณบุรีมาแล้ว ผมตั้งใจจะเอาสาลี่ของดีเมื่องสุพรรณฯ มาถวายพญามังรายฯ ครับ และเมื่อนึกถึงนิยามของฤดูการท่องเที่ยวเชียงรายแล้ว ถ้าไม่เห็นดอกไม้ที่ไหนซักแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงราย ก็ยังมาไม่ถึงเชียงรายนะครับ และผมก็จะยกตัวอย่างสถานที่จัดดอกไม้ในบล็อกนี้ สองที่ด้วยกันครับ นั่นคือ อนุสาวรีย์พญามังราย กับ สวนตุง ครับ


เริ่มจากบริเวณรอบ ๆ อนุสาวรีย์พญามังรายก่อนครับ รอบ ๆ ท่านจะมีการจัดดอกไม้สวยงามตกแต่งบริเวณด้านหลังอย่างสวยงามครับ ซึ่งใครที่นั่งรถหรือขับรถผ่านห้าแยกพ่อขุน ก็จะเห็นการจัดดอกไม้รอบ ๆ อนุสาวรีย์อย่างที่เห็นนะครับ และจะมีที่นั่งถ่ายรูปพร้อมกับดอกไม้สวย ๆ รอบ ๆ ตัวด้วยครับ แต่ผมไม่ได้ถ่ายมา เพราะมีนักท่องเที่ยวไปถ่ายตรงที่ผมบอกครับ


ตอนเด็ก ๆ นะครับ พ่อแม่ผมมาเดินเล่นและมาไหว้ท่านแทบทุกอาทิตย์ครับ พอวันหยุดว่าง ๆ ก็พามาที่นี่กันครับ และตอนเด็ก ๆ ผมเคยมานอนกลิ้งเกลือกบนสนามหญ้าที่นี่ด้วยล่ะครับ


ชมดอกไม้สวย ๆ กันแล้ว คงจะต้องมีการถ่ายรูปกันบ้างล่ะครับ และที่สำคัญจะต้องโฟกัสไปที่ตัวดอก ดูว่าจะสวยงามซักแค่ไหนกัน แล้วดอกนี้สวยหรือเปล่าครับ ถ้าสวย แสดงว่าคนที่พูดเป็นคนสวยครับ คุณผู้ชายอย่าน้อยใจนะครับ เพราะถ้าคนพูดเป็นผู้ชาย นั่นแสดงว่าจิตใจสวยงามครับ

หลังจากที่ผมเอาสาลี่ไปถวายท่านเสร็จแล้ว ผมไปดูดอกไม้ที่สวนตุงและโคมครับ ซึ่งสวนที่นั่นจัดนิทรรศการดอกไม้ "นครเชียงราย นครแห่งดอกไม้งาม" ซึ่งจะจัดแสดงดอกไม้ถึงเดือนกุมภาพันธ์ครับ


เรามาย้อนอดีตกันสำหรับที่นี่นะครับ สถานที่แห่งนี้ เคยเป็น "คุกเก่า" มาก่อนครับ ในสมัยเด็ก ๆ ผมก็เคยเห็นด้านหน้าของตัวคุกเก่านี้มาแล้วครับ และสมัยนั้นตอนที่ผมเริ่มเรียนมัธยมต้น สถานที่แห่งนี้ก็เริ่มแออัดและคับแคบมากขึ้นครับ เนื่องจากผู้ที่ถูกลงโทษต้องจำคุกนั้นมีจำนวนสูงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ห้องขังมีสภาพอึดอัด จนมีผู้ต้องขังบางคนถึงกับขาดอากาศหายใจ ตายในห้องขัง และเรื่องนี้ก็เคยเป็นข่าวมาแล้วด้วยครับ


ดังนั้นทางจังหวัดเชียงราย จึงจำเป็นต้องย้ายคุกและผู้ต้องขังย้ายออกไปไกลครับ และย้ายไปยังดอยฮาง สำหรับพื้นที่นี้จังปรับเปลี่ยนเป็นสวนสาธารณะ เป็นสวนตุงและโคมนั่นเองครับ อาคารที่ได้เห็นดังต่อไปนี้เป็นอาคารควบคุมดูแลผู้ต้องขัง ซึ่งด้านหลังจะมีห้องขังผู้ต้องหาครับ แต่ตอนนี้ก็ถูกรื้อออกไปแล้วครับ


เหลือเพียง อาคารผู้ต้องขังที่อยู่ด้านหลังเวทีของสวนครับ (ตามรูปด้านบน) ซึ่งปัจจุบัน เป็นห้องจัดแสดง 30 ชนเผ่าที่อาศัยอยู่ในจังหวัดเชียงรายครับ

บริเวณนี้นะครับ ก็จะใช้พื้นที่จัดงานต่าง ๆ หลายอย่าง ถ้าไม่ได้จัดงานอะไร ก็จะเป็นสวนสาธารณะใจกลางเมืองเชียงรายครับ ตอนเย็นๆ จะมีกลุ่มผู้ใหญ่มาเต้นแอรโรบิคกัน และยังมีวัยรุ่นมาเล่นสเกตบอร์ดกัน ณ ที่นี้ด้วยครับ


ที่คุกเก่านี้เคยมีแดนประหารด้วยนะครับ อย่าคิดว่าเพราะมันแคบก็เลยไม่มี ไม่ใช่นะครับ ที่นี่เคยมีครับ สำหรับจุดที่เคยเป็นแดนประหารมาก่อน นั่นคือศาลพระพรหมครับ หลังจากที่ย้ายคุกไป แต่ความเป็นอดีตนั้นก็ยังหลงเหลืออยู่ เนื่องจากมีวิญญาณที่ถูกประหารยังคงไม่ไปไหน ทำให้มีการตั้งศาลพระพรหมที่นั่นเพื่อเป็นการขออโหสิกรรมต่อวิญญาณโทษประหาร และทำให้ที่นั่นเป็นที่ๆ มงคลขึ้นคับ


ครับ นี่คือเรื่องราวในอดีตของที่นี่ จากสถานที่ ๆ เต็มไปด้วยความทุกข์ระทม  ก็สามารถเนรมิตให้เป็นสถานที่ ๆ มีแต่ความรื่นรมย์ ได้อย่างสวนตุงครับ


ในบทความเรื่องงานไม้ดอกอาเซียนที่ผ่านมา ผมเคยเล่าว่ามีการเปลี่ยนนายกองค์การฯเป็น สลักจฤฎดิ์ (สลักจิต) ติยะไพรัช ทำให้อดีตนายกสองสมัย รัตนา จงสุธนามณี มาจัดงานดอกไม้ที่สวนตุงแห่งนี้ ทำให้เชียรายมีงานดอกไม้งามถึง 2 แห่งครับ


สำหรับ 8 ปีในการดำรงตำแหน่งของท่านรัตนาที่ผ่านมานั้น ทำให้งานจัดดอกไม้จึงสวยงามและเป็นที่น่าประทับใจต่อนักท่องเที่ยวครับ และเอกลักษณ์ที่สำคัญที่สุดคืออุโมงค์ดอกไม้ครับ ผมรู้สึก่าว่าอยากให้งานกล้วยไม้ที่บึงฉวากจังหวัดสุพรรณบุรี จัดดอกให้เต็มอุโมค์เหมือนที่เชียงรายแบบเลยครับ


ไม่ว่าจะเป็นดอกไม้อะไร ก็จัดได้อย่างสวยงามและร่มรื่นครับ แต่น่าเสียดายนิดหนึ่ง ที่ผมมาช้าไปนิด ทำให้ดอกไม้บางส่วนอาจเหี่ยวไปแล้ว แต่คนที่ดูแลบอกว่า มีการมาเปลี่ยนให้ดอกดูสวยตลอดเวลานั่นเองครับ ที่สำคัญ ต้องมาดู ดอกทิวลิปที่นี่ด้วยนะครับ


นอกจากนี้ ยังมีหอแสดงภาพ ซึ่งแสดงการประกวดภาพวาดภาพถ่ายของชาวเชียงรายทุกวัยแสดงอยู่ที่หอแห่งนั้นครับ ในปีที่แล้วที่มีการฉลองครบรอบ 750 ปีเมืองเชียงรายก็มีการประกวดภาพเชียงรายวันนี้/วันวานมาแล้วครับ


ที่นี่ไม่ใช่แค่ดูดอกไม้นะครับ ยังมีจุดบริกรซื้อของกินหรือเครื่องดื่มมาด้วยครับ และก็มีการจำหน่ายซีดีเพลงชุด "นครเชียงราย นครแห่ง ดอกไม้งาม" อัลบั้ม ฝากใจไว้ ที่นครเชียงราย ซึ่งจะมีซีดี 2 แผ่นด้วยกันคือ แผ่นแรก แผ่นเพลงเชียงรายโดยตรง โดยมีเพลง "ฝากใจไว้ที่นครเชียงราย" เป็นเพลงเด่นครับ และแผ่นที่สอง แผ่นลูกกรุงเก่าที่นำมาขับร้องในแบบเชียงรายครับ สำหรับซีดีเพลงนี้ราคา 150 บาท ครับ รายได้จากการขายแผ่นจะนำไปร่วมสมทบทุนการศึกษาให้กับเยาวชนครับ ถ้าใครชอบฟังเพลง ช่วยมาอุดหนุนเพลงของเจ้าของงานด้วยนะครับ


ถ้าเห็นว่าดอกไม้สวย อยากได้ไปซักดอก จะเก็บไว้เองหรือให้คนอื่น ไม่ต้องน้อยใจ ที่นี่ก็มีขายเช่นกันครับ ไปเลือกซื้อได้เลยครับ ดอกไม้ที่นี่สวยๆ งามๆ ทั้งนั้นครับ และก็ ถ้าซื้อไปแล้วอย่าลืมดูแลมันด้วยนะครับ


สำหรับนิทรรศการนี้ จะมีไปถึงเดือนกุมภาพันธ์นะครับ ถ้าใครยังไม่ได้มาเชยชม ก็รีบมาดูกันนะครับ ดอกไม้สวย ๆ งาม ๆ พร้อมที่จะบานให้กับนักท่องเที่ยวเฉพาะในช่วงฤดูหนาวนี้เท่านั้นนะครับ ถ้ามาเชียงรายแล้วได้ดูดอกไม้ ก็จะไม่ผิดหวังนะครับ

ก่อนจบบทความนี้ไป สำหรับเนื้อหานี้ทำให้ผมนึกถึงเพลงเกมหนึ่ง ชื่อเพลงว่า Alstroemeria (walk with you remix) เพลงนี้แต่งโดย ยาสึฮิโระ ทากุจิ (TAG) เพลงนี้ปรากฎในเกมเต้น Dance Dance Revolution ภาค X3 vs 2ndMix ซึ่งชื่อเพลงนั้นเอาชื่อดอก "โอลสโทรเมเรีย" มาเป็นที่เพลง และชื่อ Remix อันนี้สื่อว่า ดอกนั้น "จะมาอยู่เคียงข้างกับคุณ"


เวลาที่ผมฟังเพลงนี้แล้ว ก็มักจะนึกถึงสวนดอกไม้ครับ ผมก็นึกในใจว่าดอกนี้จะมีให้เห็นในเชียงรายหรือเปล่านะ แต่ถึงยังไงก็ลองฟังเพลงดูนะครับ

สำหรับการไปเที่ยวสุพรรณบุรีของผม ผมพยายามจะเขียนมาเรื่อย ๆ ครับ และผมจะทยอยอัพขึ้น Facebook ทีหลังนะครับ อย่าลืมมาให้กำลังใจด้วยการกดถูกใจที่เพจของผม แล้วบอกต่อให้กับนักท่องเที่่ยวและคนอื่น ด้วยนะครับและอย่าลืมแสดงความคิดเห็นด้วยนะครับ


วันอังคารที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2554

(ประเดิม) เชียงราย: นั่งรถรางแอ่วเมือง เล่าขาน 9 ตำนานนครเชียงราย


ประเดิมบทความแรก ด้วยการไปเที่ยวเชียงรายด้วยการ "นั่งรถรางแอ่วเมือง เล่าขาน 9 ตำนานนครเชียงราย" สำหรับใครที่พึ่งเดินทางมาเชียงรายเป็นครั้งแรก ผมขอเสนอการนั่งรถรางเที่ยวเมืองเชียงรายกันครับ


ถ้าใครได้มาถึงเชียงรายแล้ว สถานที่ ๆ เราจะต้องมานั่นก็คือ "อนุสาวรีย์พญามังรายมหราช
" (หรือ พ่อขุนเม็งรายมหาราช)  ซึ่งเป็นกษัตริย์ปฐมล้านนาผู้สร้างเมืองเชียงราย ในปี พ.ศ.1805  และในปี 2555 นี้ จะมีงานใหญ่ของจังหวัดนั่นก็คือ งานสมโพช 750 ปีเมืองเชียงราย ซึ่งจะจัดในวันที่่ 26 มกราคม 2555 ที่จะถึงนี้ครับ







ด้้านหลังจะมีอาคารศูนย์ส่งเสริมสินค้าพื้นเมืองหลังอนุสาวรีย์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการ "นั่งรถรางแอ่วเมือง เล่าขาน 9 ตำนานนครเชียงราย" ซึ่งจะเห็นรถรางสองคันจอดอยู่ดังภาพที่เห็นนี้ครับ สาเหตุที่ผมแนะนำว่าให้มานั่งก็เพราะว่ารถรางนี้ สามารถพาเราไปยังสถานที่ท่องเที่ยวหลัก ๆ ในเมืองเชียงรายได้ แบบว่า ถ้าไม่ไปเยือนที่ต่าง ๆ ในเส้นทางรถรางแล้วเท่ากับว่าเราไม่มาถึงเชียงรายครับ


รถรางเชียงรายเปิดให้บริการทุกวัน โดยแบ่งเป็นรอบเช้าและรอบบ่าย รอบเช้าจะมี 9:00 และ 9:30 ส่วนรอบบ่ายจะมีช่วง 13:00 และ 13:30 ครับ แต่ว่ารอบนั้นจะต้องมีผู้มาใช้บริการอย่างน้อย 5 คน จึงจะให้บริการนักท่องเที่ยวได้ครับ




ภายในรถรางจะบรรจุที่นั่งซึ่งแต่ละคันสามารถให้บริการได้ 28 คน ครับ เอาล่ะ เราจะมาพูดถึงสิ่งที่ควรจะทำก่อนขึ้นรถรางกันเลย


ถ้าอยากจะขึ้นรถราง ให้เรามาถึงอนุสาวรีย์พญามังรายก่อนรถรางให้บริการ 30 นาที เช่นถ้าอยากจะไปรอบเช้าต้องมาถึงที่นี่ 8:30 ซึ่งจะได้รอบ 9:00 ครับ เมื่อมาถึงแล้ว เราก็มาลงทะเบียนที่ศุนย์บริการข้อมูลของอาคารครับ ซึ่งจะมีจุดลงทะเบียนตรงนั้นละครับ ค่าริการฟรี! ไม่เสียค่าใช้จ่ายครับ 


นี่คือจุดลงทะเบียนครับ
ซึ่งให้เขียนชื่อและจังหวัดที่ตัวเองอยู่ มาเดี่ยวหรือมาหลายคน ก็ใส่ไปตามนั้นครับ และอย่าลืมถามเจ้าหน้าที่ด้วยว่าจะออกรอบไหน แต่ว่า ถ้ารอบนั้นมีคนมาลงทะเบียนต่ำกว่า 5 คนล่ะก็... คงต้องเป็นรอบต่อไปครับ


หลังจากที่ลงทะเบียนเสร็จแล้ว ก็รับแผนที่ท่องเที่ยวเทศบาลนครเชียงราย และเส้นทาง 9 วัดเทศบาลนครเชียงรายไปศึกษาเส้นทางและแผนที่ของทางจังหวัดครับ จากนั้นก็รอรอบรถออกตามที่เจ้าหน้าที่บอก ถ้ารอนานเกินไป ก็สามารถไปแวะที่อื่น ๆ ได้ก่อนที่จะรถออก (พอใกล้เวลาเดินรถให้รีบมาเลยนะครับไม่งั้นตกรถ) 


เมื่อถึงเวลาแล้วล้อหมุน!! ก็จะมีเจ้าหน้าที่่และมั้คคุเทศก์มาคอยต้อนรับการเดินทางรถรางแอ่วเมืองเชียงราย และเขาก็เล่าเรื่องราวต่าง ๆ ของสถานที่ต่าง ๆ ของจังหวัดเชียงรายอย่างละเอียดและครบถ้วน!! ครับ ส่วนสถานที่ ๆ รถจะไปแวะมี 9 จุดดังต่อไปนี้ครับ (ขออภัยไม่มีภาพที่ชัดเจนให้ดู)


1 อนุสาวรีย์พญามังราย
2 อนุสาวรีย์รัชกาลที่ 5 (ศาลากลางเก่า)
3 วัดพระสิงห์
4 วัดพระแก้ว
5 วัดดอยงำเมือง (ที่ตั้งของกู่พญามังราย)
6 วัดพระธาตุดอยจอมทอง (เสาสะดือเมืองเชียงราย)
7 วัดมิ่งเมือง
8 หอนาฬิกาเฉลิมพระเกียรติ
9 สวนตุงและโคมเฉลิมพระเกียรติ (เรือนจำกลางเก่า)


บางครั้งบางสถานที่อาจปิดปรับปรุงชัี่วคราว หรือปิดประจำวั้น ซึ่งรถรางจะไม่แวะชมครับ แต่ละสถานที่ รถจะจอดให้แวะรับชมอย่างน้อย 20-30 นาที โดยทางเจ้าหน้าที่จะอธิบายตามจุดต่าง ๆ ที่เราไปครับ การเที่ยวรถรางนี้เราจะใช้เวลาประมาณ  3 ชั่วโมงจากจุดแรกถึงจุดสุดท้าย และรถก็จะกลับมายังอนุสาวรีย์พญามังราย ก็เสร็จสิ้นการเดินทางครับ






ถ้าใครอยากจะรู้จักเชียงรายอย่างลึกและละเอียดแบบนี้ ให้ลองมานั่งรถรางเชียงรายดูนะครับ ค่าบริการฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่าย แต่เราสามารถให้ tip ได้ขณะนั่งรถรางครับ


ทิ้งท้ายบทความ


ตอนนี้จังหวัดเชียงรายมีบริการติด Wi-Fi ทั้วเขตเทศบาลนครเชียงรายชื่อ Chiangrai Wi-Fi City ตั้งแต่วันเสาร์ที่ 17 ธันวาคม ซึ่งสมัครเป็นสมาชิกฟรี และเล่นได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายครับ สถานที่ ๆ ให้บริการ(ทั่วเมืองเชียงราย) >> http://criwifi.totnorth.com/page3.htm


แล้วเจอกันใหม่บทความหน้าครับ สวัสดีครับ