ต่อไปนี้เรามาว่ากันด้วยเรื่องเมืองกรุงเทพฯ กันบ้าง สิ้นปีแล้ว ผมจึงแนะนำวิธีการจำชื่อเต็มของกรุงเทพฯ เมืองหลวงของประเทศไทยมาฝากครับ
ชื่อเต็มของกรุงเทพมหานครมีชื่อเต็มว่า
"กรุงเทพมหานคร อมรรัตนโกสินทร์ มหินทรายุธยา มหาดิลกภพ นพรัตนราชธานีบูรีรมย์ อุดมราชนิเวศน์มหาสถาน อมรพิมานอวตารสถิต สักกะทัตติยวิษณุกรรมประสิทธิ์"
ทีแรกผมก็จำชื่อเต็มแบบนี้ไม่ได้ เช่นกัน จนกระทั่งมารู้จักกับเพลง "กรุงเทพมหานคร" ที่ขับร้องโดยอัสนี-วสันต์ ซึ่งเอาชื่อเต็มของกรุงเทพมาร้องเป็นทำนองเพลงเช่นนี้ครับ (คลิปเพลงโดนลบไปแล้วครับ T_T)
และเพลงนี้เองที่ทำให้ผมสามารถจำชื่อเต็มของกรุงเทพมหานครได้ ด้วยการฝึกร้องเพลงนี้ซ้ำ ๆ หลายครั้ง เพราะเนื้อร้องเพลงนี้มีแต่ชื่อเต็มของเมืองกรุงเทพที่ร้องซ้ำไปซ้ำมาจนจบเพลง เมื่อผมร้องเพลงนี้จนคล่องแล้ว ทำให้ผมจำชื่อเต็มของกรุงเทพได้ทั้งหมดแล้วครับ
แต่บางที เราอาจจะจำแบบนี้ก็ได้ (ซึ่งแบ่งวรรคตามเพลง)
"กรุงเทพมหานคร
อมรรัตนโกสินทร์
มหินทรายุธยามหาดิลก-
-ภพ นพรัตนราชธานีบูรี-
-รมย์ อุดมราชนิเวศน์มหาสถาน
อมรพิมานอวตารสถิต
สักกะทัตติยวิษณุกรรมประสิทธิ์"
แต่เวลาพูดนี่ก็ระวังเรื่องการแบ่งวรรคซักนิดหนึ่ง ตรง "มหินทรายุธยามหาดิลกภพ นพรัตนราชธานีบูรีรมย์" เพราะเพลงจะร้องแบบแยกวรรค แต่เป็นอันว่า ขอให้เราจำชื่อเต็มทั้งหมดได้ก็ใช้ได้
เอาล่ะ ใครยังจำชื่อเต็มไม่ได้ ลองใช้วิธีร้องเพลงนี้ดู ร้องคล่องแล้วลองไม่ดูเนื้อเพลงนะ ถ้าฝึกร้องเพลงนี้บ่อย ๆ รับรองจะจำชื่อเต็มของกรุงเทพได้แน่นอน!!
ส่วนใตครอยากรู้เรื่องที่มาที่ไป ให้เชิญอ่านได้ที่นี่ครับ
ราชบัณฑิตยสถาน: กรุงเทพมหานคร
วันศุกร์ที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2554
วันอาทิตย์ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2554
เทศกาลเชียงรายดอกไม้งามครั้งที่ 8
ภายในงานก็มีเจ้าหน้าทีอาสามาคอยต้อนรับนักท่องเที่ยวตามจุดต่าง ๆ หลาย ๆ ที่ ซึ่งพร้อมที่จะให้บริการข้อมูลเรื่องสถานที่ต่าง ๆ ในงานเทศกาลครับ
งานนี้ผมไปเที่ยวแล้วคุ้มมากครับ แต่เดินไม่ทั่วทั้งงาน ก็เลยตัดสินใจว่า ผมจะไปเที่ยวในงานนั้นอีกครั้งเพื่อเก็บรูปมาฝากครับ และถ้ามีรายละเอียดเพิ่มเติม ผมมาเขียนต่อภาคสองสำหรับงานดอกไม้งามที่เชียงรายนะครับ
ถ้าใครได้ดูทีวี ก็จะเห็นโฆษณาของงานนี้ด้วยนะครับ (credit:tanagrid7)
สำหรับงานเทศกาลเชียงรายดอกไม้งามครั้งที่ 8 เริ่มตั้งแต่วันที่ 23 ธันวาคม 2554 ถึงวันที่ 3 มกราคม 2555 ใครอยู่เชียงรายตอนนี้ ให้รีบไปสัมผัสงานเลยครับ ไปกลางวัน ได้ดูดอกไม้ ไปกลางคืนได้ชมชิมช็อปครับผม
หนาวนี้ที่เชียงราย ร่วมฉลอง 750 ปีเมืองเชียงรายกับงานเทศกาลเชียงรายดอกไม้งามครั้งที่ 8 นะครับ
วันอังคารที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2554
ย้อนความทรงจำเมื่อตอนไปเที่ยวสุพรรณบุรี
เทพฯ ครับ พอสอบเสร็จ ปิดเทอม ผมก็เลือกที่จะไปเที่ยวสุพรรณบุรีครับ ซึ่งห่างจากกรุงเทพฯ ราวๆ 100 กว่ากิโลเมตรนั่นเอง ตั้งแต่เรียนมาปี 1 จนกระทั่งจบการศึกษา ผมได้ไปสุพรรณบุรีมีแล้ว 3 ครั้งด้วยกันครับ
สำหรับการไปเที่ยวสุพรรณบุรี 3 ครั้งในตอนนั้น ผมเจออะไรมาบ้าง ผมจะเล่าประสบการณ์แบบย่อๆ แล้วจะมาเขียนแบบเต็ม ๆ ภายหลังครับ
ในครั้งแรก ตื่นเต้นสุด ๆ ที่จะได้ไปสุพรรณบุรีเป็นครั้งแรก ครั้งนั้นผมไปวันที่ 20 - 21 มีนาคม 2553 สถานที่ ๆ ไปคือ ตลาดสามชุก หอคอยบรรหาร พิพิธภัณฑ์ลูกหลานพันธุ์มังกร และวัดป่าเลยไลยก์ครับ ครั้งนั้นต้องไปพักค้างคืนที่โรงแรม 1 คืนครับ แต่รูปถ่ายครั้งแรกอยู่ที่กรุงเทพฯ จึงไม่ได้เอามาให้ดู ก็เลยไม่มีรูปให้ดูครับ
ในตอนที่ผมไปสามชุกครั้งนั้นเป็นอะไรที่ประทับใจมากครับผู้คนก็เป็นมิตรและช่วยเหลือกันดีมากครับ และเจอเรื่อง FAIL ของผมด้วยนั่นเองครับ
ในตอนนั้น ผมก็พยายามจะฟังสำเนียงชาวสุพรรณในระหว่างเที่ยว และประสบการณ์ครั้งแรกที่ผมได้ไปนอนโรงแรมตอนนั้น เจ้าหน้าที่โรงแรมก็ช่วยหาห้องพักให้ผม ซึ่งผมได้เลือกห้องที่ติดเครื่องปรับอากาศเครื่องใหม่ และก็ได้ยินพนักงานโรงแรมพูดถึงห้องพักว่า "แอร์ไหม้"
หา!! แอร์ไหม้!?! ผมก็งงล่ะทีนี้ เลยไปถามอีกที ที่ไหนได้ เขากำลังจะบอกว่า "แอร์ใหม่" แต่ด้วยสำเนียงของเขาทำให้ผมได้ยินเป็น "แอ๋ไหม้" และตอนนั้นผมก็ขำและนึกในใจว่า นั่นไง โดนเข้าแล้ว หลังจากนั้น ก็นอนคืนหนึ่ง แล้วไปเที่ยวในส่วนที่เหลือและก็จบการเดินทางครับ
พอวันที่สองต่อมา มีงานเทศกาลเที่ยวไทย 5 ภาคซึ่งจัดที่จังหวัดสุพรรณบุรีด้วย แต่ก่อนหน้านั้น ผมเข้าเมืองไปเที่ยววัดพระนอน เป็นนึ่งในวัดที่ติดกับแม่น้ำท่าจีนด้วย หลัก ๆ คือผมจะไปเที่ยววัดที่มี "วังมัจฉา" ไม่รู้อยู่ตรงไหน แต่ก็รู้จักตรงที่วัดนี้แหละครับ ตอนนั้นผมไม้ได้เอะใจอะไร เพียงแต่ว่าผมอยากจะมาไหว้พระ และมาให้อาหารปลา แต่ที่ผมประหลาดใจกับสิ่งที่เห็นเป็นครั้งแรกก็ตรง "วัดพระนอน" นี่แหละครับ
และวันที่สาม ผมเข้าไปใน พิพิธภัณฑ์ลูกหลานพันธุ์มังกร ซึ่งเป็นการท่องแดนมังกรและประวัติศาสตร์และความเชื่อของประเทศจีน ซึ่งข้างในนั้นอลังการมาก เป็นอันว่าเดี๋ยวผมจะมาเล่าอย่างละเอียดในตอนต่อไปครับ แล้วครั้งที่สองก็เสร็จสิ้นลง และกลับกรุงเทพฯครับ
ในวันนั้นผมจะไปตลาดเก้าห้องวันนั้น แต่รถท้องถิ่นออกช้ามาก ผมจึงต้องไปขึ้นหอก่อน ก็เลยเลื่อนการเดินทางไปตลาดเก้าห้องในวันจันทร์ ซึ่งทำได้แค่ดูบ้านเรือนเฉย ๆ เท่านั้นครับ แต่อย่างไรก็ตาม การเที่ยวสุพรรณบุรีครั้งที่สามก็ยังคุ้มค้าเหมือนเดิม เป็นอันว่า แต่ละครั้งผมเจออะไรมาบ้าง และตอนหน้าจะมาเล่าประสบการณ์แต่ละครั้งอย่างละเอียดครับ
(ประเดิม) เชียงราย: นั่งรถรางแอ่วเมือง เล่าขาน 9 ตำนานนครเชียงราย
ถ้าใครได้มาถึงเชียงรายแล้ว สถานที่ ๆ เราจะต้องมานั่นก็คือ "อนุสาวรีย์พญามังรายมหราช" (หรือ พ่อขุนเม็งรายมหาราช) ซึ่งเป็นกษัตริย์ปฐมล้านนาผู้สร้างเมืองเชียงราย ในปี พ.ศ.1805 และในปี 2555 นี้ จะมีงานใหญ่ของจังหวัดนั่นก็คือ งานสมโพช 750 ปีเมืองเชียงราย ซึ่งจะจัดในวันที่่ 26 มกราคม 2555 ที่จะถึงนี้ครับ
ด้้านหลังจะมีอาคารศูนย์ส่งเสริมสินค้าพื้นเมืองหลังอนุสาวรีย์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการ "นั่งรถรางแอ่วเมือง เล่าขาน 9 ตำนานนครเชียงราย" ซึ่งจะเห็นรถรางสองคันจอดอยู่ดังภาพที่เห็นนี้ครับ สาเหตุที่ผมแนะนำว่าให้มานั่งก็เพราะว่ารถรางนี้ สามารถพาเราไปยังสถานที่ท่องเที่ยวหลัก ๆ ในเมืองเชียงรายได้ แบบว่า ถ้าไม่ไปเยือนที่ต่าง ๆ ในเส้นทางรถรางแล้วเท่ากับว่าเราไม่มาถึงเชียงรายครับ
รถรางเชียงรายเปิดให้บริการทุกวัน โดยแบ่งเป็นรอบเช้าและรอบบ่าย รอบเช้าจะมี 9:00 และ 9:30 ส่วนรอบบ่ายจะมีช่วง 13:00 และ 13:30 ครับ แต่ว่ารอบนั้นจะต้องมีผู้มาใช้บริการอย่างน้อย 5 คน จึงจะให้บริการนักท่องเที่ยวได้ครับ
ภายในรถรางจะบรรจุที่นั่งซึ่งแต่ละคันสามารถให้บริการได้ 28 คน ครับ เอาล่ะ เราจะมาพูดถึงสิ่งที่ควรจะทำก่อนขึ้นรถรางกันเลย
ถ้าอยากจะขึ้นรถราง ให้เรามาถึงอนุสาวรีย์พญามังรายก่อนรถรางให้บริการ 30 นาที เช่นถ้าอยากจะไปรอบเช้าต้องมาถึงที่นี่ 8:30 ซึ่งจะได้รอบ 9:00 ครับ เมื่อมาถึงแล้ว เราก็มาลงทะเบียนที่ศุนย์บริการข้อมูลของอาคารครับ ซึ่งจะมีจุดลงทะเบียนตรงนั้นละครับ ค่าริการฟรี! ไม่เสียค่าใช้จ่ายครับ
![]() |
นี่คือจุดลงทะเบียนครับ |
หลังจากที่ลงทะเบียนเสร็จแล้ว ก็รับแผนที่ท่องเที่ยวเทศบาลนครเชียงราย และเส้นทาง 9 วัดเทศบาลนครเชียงรายไปศึกษาเส้นทางและแผนที่ของทางจังหวัดครับ จากนั้นก็รอรอบรถออกตามที่เจ้าหน้าที่บอก ถ้ารอนานเกินไป ก็สามารถไปแวะที่อื่น ๆ ได้ก่อนที่จะรถออก (พอใกล้เวลาเดินรถให้รีบมาเลยนะครับไม่งั้นตกรถ)
เมื่อถึงเวลาแล้วล้อหมุน!! ก็จะมีเจ้าหน้าที่่และมั้คคุเทศก์มาคอยต้อนรับการเดินทางรถรางแอ่วเมืองเชียงราย และเขาก็เล่าเรื่องราวต่าง ๆ ของสถานที่ต่าง ๆ ของจังหวัดเชียงรายอย่างละเอียดและครบถ้วน!! ครับ ส่วนสถานที่ ๆ รถจะไปแวะมี 9 จุดดังต่อไปนี้ครับ (ขออภัยไม่มีภาพที่ชัดเจนให้ดู)
1 อนุสาวรีย์พญามังราย
2 อนุสาวรีย์รัชกาลที่ 5 (ศาลากลางเก่า)
3 วัดพระสิงห์
4 วัดพระแก้ว
5 วัดดอยงำเมือง (ที่ตั้งของกู่พญามังราย)
6 วัดพระธาตุดอยจอมทอง (เสาสะดือเมืองเชียงราย)
7 วัดมิ่งเมือง
8 หอนาฬิกาเฉลิมพระเกียรติ
9 สวนตุงและโคมเฉลิมพระเกียรติ (เรือนจำกลางเก่า)
บางครั้งบางสถานที่อาจปิดปรับปรุงชัี่วคราว หรือปิดประจำวั้น ซึ่งรถรางจะไม่แวะชมครับ แต่ละสถานที่ รถจะจอดให้แวะรับชมอย่างน้อย 20-30 นาที โดยทางเจ้าหน้าที่จะอธิบายตามจุดต่าง ๆ ที่เราไปครับ การเที่ยวรถรางนี้เราจะใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงจากจุดแรกถึงจุดสุดท้าย และรถก็จะกลับมายังอนุสาวรีย์พญามังราย ก็เสร็จสิ้นการเดินทางครับ
ถ้าใครอยากจะรู้จักเชียงรายอย่างลึกและละเอียดแบบนี้ ให้ลองมานั่งรถรางเชียงรายดูนะครับ ค่าบริการฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่าย แต่เราสามารถให้ tip ได้ขณะนั่งรถรางครับ
ทิ้งท้ายบทความ
ตอนนี้จังหวัดเชียงรายมีบริการติด Wi-Fi ทั้วเขตเทศบาลนครเชียงรายชื่อ Chiangrai Wi-Fi City ตั้งแต่วันเสาร์ที่ 17 ธันวาคม ซึ่งสมัครเป็นสมาชิกฟรี และเล่นได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายครับ สถานที่ ๆ ให้บริการ(ทั่วเมืองเชียงราย) >> http://criwifi.totnorth.com/page3.htm
แล้วเจอกันใหม่บทความหน้าครับ สวัสดีครับ
อย่าลืมมากด Like ที่หน้าเพจเราบน Facebook
เวลาผมไปเที่ยวที่ไหน ผมก็มักจะถ่ายรูปแล้วนำไปขึ้นบน Facebook เพื่อให้เพื่อน ๆ ดูครับ สำหรับใครที่มี Facebook แล้ว อย่าลืมไปกด Like บนหน้าเพจของผมได้ที่
Sanitphanburi บ่าวเชียงรายชอบเที่ยวสุพรรณฯ
(http://www.facebook.com/328buritravel)
ในหน้า Facebook ของผมนี้ ผมจะนำเอารูปถ่ายจากการไปเที่ยวมาขึ้นบนหน้านี้ทั้งหมดครับ ส่วนประสบการณ์การท่องเที่ยวผมก็จะมาเขียนลงในบล็อกครับ และที่สำคัญ ผมให้ทุกคนที่เคยไปท่องเที่ยวลองมาแชร์ประสบการณ์การท่องเที่ยวอีกทั้งยังโพสรูปหรือคลิปเกี่ยวกับการท่องเที่ยวได้ครับ
จากนี้ไป ผมจะพยายาม update ทั้งบล็อกและ Facebook แล้วมาเจอกันกับผม Sanitphanburi บ่าวเชียงรายชอบเที่ยวสุพรรณ ได้ที่นี่ครับ สวัสดีครับ
Sanitphanburi บ่าวเชียงรายชอบเที่ยวสุพรรณฯ
(http://www.facebook.com/328buritravel)
ในหน้า Facebook ของผมนี้ ผมจะนำเอารูปถ่ายจากการไปเที่ยวมาขึ้นบนหน้านี้ทั้งหมดครับ ส่วนประสบการณ์การท่องเที่ยวผมก็จะมาเขียนลงในบล็อกครับ และที่สำคัญ ผมให้ทุกคนที่เคยไปท่องเที่ยวลองมาแชร์ประสบการณ์การท่องเที่ยวอีกทั้งยังโพสรูปหรือคลิปเกี่ยวกับการท่องเที่ยวได้ครับ
จากนี้ไป ผมจะพยายาม update ทั้งบล็อกและ Facebook แล้วมาเจอกันกับผม Sanitphanburi บ่าวเชียงรายชอบเที่ยวสุพรรณ ได้ที่นี่ครับ สวัสดีครับ
About Me
สวัสดีครับ ผม "Sanitphanburi บ่าวเชียงรายชอบเที่ยวสุพรรณ" ครับ!
ตอนนี้ผมมาเปิดบล็อกส่วนตัวไว้ ณ ที่แห่งนี้ เพื่อที่จะมาเล่าเรื่องการท่องเที่ยวง่าย ๆ ของผมครับ
แรกๆ อาจจะไม่กล้าเปิดตัวสู่สาธารณะซักเท่าไหร่ แต่ผมก็อยากจะนำเอาประสบการณ์การท่องเที่ยวมาเล่าให้ฟังครับ
ทำไมถึงต้อง "บ่าวเชียงรายชอบเที่ยวสุพรรณ" ก็เพราะว่าผมเป็นชาวจังหวัดเชียงรายครับ และชอบจังหวัดสุพรรณบุรีเป็นพิเศษ และตอนที่ผมเรียนอยู่ที่กรุงเทพ พอปิดเทอมสอบเสร็จ ก็ไปเที่ยวสุพรรณบุรีก่อนที่่จะกลับเชียงรายครับ
อะไรที่ทำให้ผมชอบจังหวัดสุพรรณบุรี ก็คงเป็น "ภาษาถิ่น" ที่น่าฟังของสุพรรณบุรี (เสียงเหน่อ) นี่แหละครับ และตอนแต่งนิยายนั้น ตัวเอกของผมมีเพื่อนเป็นนักบาสชาวสุพรรณบุรี ก็เลยรู้สึกสนใจจังหวัดนี้มากครับ
สำหรับบล็อกของผมนี้่จะทำอะไรบ้างเหรอ? ก็คือ เล่าประสบการณ์การท่องเที่ยวแบบง่าย ๆ โดยเฉพาะเอารูปภาพที่ถ่ายจากกล้องมือถือมาให้ดูกันในบล็อกครับ เพราะผมเป็นคนชอบท่องเที่ยวอยู่แล้ว แต่ลักษณะการเที่ยวของผมนี่จะเรียกกว่าอะไรดีนะ คงเป็นการท่องเที่ยวแบบ "ทริปกากๆ" หรือเปล่า??
จะว่าอะไรก็ช่างเถอะ แต่สำหรับการท่องเที่่ยวในรูปแบบผมก็คือ"ไป เพื่อให้รู้" ว่าที่นั่นมีอะไร ดี หรือมีอะไรเด็ดหรือน่าสนใจบ้าง ที่สำคัญ ผมชอบถ่ายรูปเวลาไปที่ไหนมาไหน และไม่รู้ว่าจะอวดรูปให้ใครดู ก็เลยมาเปิดเป็นบล็อกการท่องเที่่ยวแบบนี้แหละครับ
จากนี้ไป ผมจะเล่าเรื่องราวการท่องเที่ยวผ่านบล็อกนี้ และพูดถึงสถานที่ท่องเที่ยวแบบง่าย ๆ ในรูปแบบของผม โดยจะเน้นจังหวัดเชียงรายซึ่งเป็นบ้านเกิดเมืองนอนของผม และมี กรุงเทพ เชียงใหม่ พะเยา และสุพรรณบุรี ตามแต่ที่ผมจะออกไปเดินทางที่ไหน
อย่าลืมติดตามและเป็นกำลังใจให้ผมเขียนบล็อกเรื่องการเดินทางของผมต่อไปด้วยนะครับ อย่าลืมดูและให้ความคิดเห็นด้วยนะครับ
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)